วิธีดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวกับคนหายพลัดหลง ให้ปฏิบัติดังนี้
ข้อ ๔๐๕ เมื่อมีผู้มาแจ้งความเกี่ยวกับคนหายพลัดหลง ให้ผู้มีหน้าที่รับแจ้ง - รีบดำเนินการรับแจ้งลงรายงานประจำวันหรือบันทึกข้อความไว้เป็นหลักฐาน
- จัดการกรอกข้อความลงในรายงานตำหนิรูปพรรณคนหายทันที ตามแบบ วท.๑๒/๑-ต.๓๒๖ ท้ายระเบียบนี้
- ให้ซักถามสาเหตุแห่งการหายจากผู้แจ้งให้ได้ความละเอียดชัดเจน
- แล้วจัดการต่อไปนี้
ก. หน่วยงานที่มีหน้าที่รับแจ้งภายในเขตกรุงเทพมหานคร ให้รีบติดต่อแจ้งเรื่องราวของคนหายพลัดหลงไปยัง กองกำกับการรถวิทยุ และศูนย์รวมข่าว และกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี เพื่อดำเนินการติดตามค้นหา แล้วให้ออกรายงานตำหนิรูปพรรณคนหายนี้ จำนวน ๒ ฉบับ เก็บรวมเรื่องเข้าเล่มไว้ ณ รับแจ้ง ๑ ฉบับ และส่งกองทะเบียนประวัติอาชญากร ๑ ฉบับ
ข. หน่วยงานที่มีหน้าที่รับแจ้งในเขตจังหวัดอื่น ให้ออกรายงานนี้ ๔ ฉบับ เก็บรวมเรื่องไว้ ณ ที่แจ้ง ๑ ฉบับ ส่ง วิทยาการจังหวัด ๑ ฉบับ กองกำกับการตำรวจวิทยาการ เขต ๑ ฉบับ และ กองทะเบียนประวัติอาชญากร ๑ ฉบับ
ค. การส่งรายงานตำหนิรูปพรรณคนหาย ให้จัดการส่งไปทันที พร้อมด้วยรูปถ่าย (ถ้ามี) ให้พนักงานสอบสวนหรือผู้รับแจ้งลงชื่อรับรองไว้หลังรูปถ่าย และบันทึกว่า ถ่ายเมื่อ วัน เดือน ปีใด และให้แนะนำกับผู้แจ้งด้วยว่า ถ้าได้ตัวคนหายคืนมาแล้วให้รีบแจ้งถอนที่สถานีตำรวจที่ใกล้เคียง เพื่อแจ้งกองทะเบียนประวัติอาชญากร ทราบและปฏิบัติตามระเบียบต่อไป
ข้อ ๔๐๖ ถ้ากรณีเป็นที่สงสัยว่าคนหายหลัดหลงนั้น ถูกล่อลวง ลักพาไป ให้รีบจัดตำรวจออกติดตามตลอดจนดำเนินการใช้เครื่องมือสื่อสารติดต่อกับตำรวจท้องที่ ตำรวจทางหลวง ตำรวจรถไฟ สกัดค้นตามด่านใกล้เคียง หรือสกัดที่เป็นปลายทางที่ยานพาหนะจะผ่านไปโดยด่วน
ถ้าการสอบสวนรับแจ้งนั้น มีเหตุอันควรสงสัย หรือเชื่อมั่นว่าจะเกี่ยวข้องกับการเมือง นอกจากดำเนินการดังกล่าวแล้ว ให้ทำการสอบสวนมูลกรณีโดยละเอียด และรายงานด่วนเป็นหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ๒ ชุด เพื่อพิจารณาสั่งการให้ตำรวจสันติบาล ดำเนินการสืบสวนสอบสวนติดตามเป็นพิเศษต่อไป ในการดำเนินการสอบสวนจะติดต่อผู้บังคับการตำรวจสันติบาลไปร่วมการสอบสวน หรือส่งตัวผู้แจ้งไปให้ผู้บังคับการตำรวจสันติบาลสอบสวน แล้วแต่กรณี และเฉพาะรายก็ได้ เมื่อสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วให้รายงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบอีกครั้งหนึ่ง
ข้อ ๔๐๗ ถ้าผู้แจ้งสงสัยว่าคนหาย จะถูกทำร้ายถึงตาย หรือตายด้วยเหตุอื่น ๆ ให้พนักงานสอบสวนส่งตัวผู้แจ้ง ไปดูรูปถ่ายตำหนิรูปพรรณของคนตายไม่ทราบชื่อ ที่ กองทะเบียนประวัติอาชญากร กองกำกับการตำรวจวิทยาการเขต หรือวิทยาการจังหวัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๔๐๘ ให้สารวัตรใหญ่ สารวัตร ผู้บังคับกอง หรือหัวหน้าสถานีตำรวจ สั่งมอบหมายตำรวจสถานีคนใดคนหนึ่ง เป็นผู้รับผิดชอบสืบสวนติดตามหาตัวคนหาย โดยให้ไปรู้จักกับบ้านผู้แจ้งหรือผู้ปกครองคนหาย และหมั่นไปติดต่อเยี่ยมเยียนเป็นระยะ ๆ ทุก ๗ วัน ๑๕ วัน ๑ เดือน ๒ เดือน และ ๓ เดือน เมื่อครบกำหนด ๓ เดือนแล้ว หากยังไม่ทราบหรือได้ตัวคนหายคืน ให้สารวัตรใหญ่ สารวัตร ผู้บังคับกอง หรือหัวหน้าสถานีตำรวจ รายงานผลแห่งการไปติดต่อเยี่ยมเยือน ตามแบบ วท.๑๒/๓-ต. ท้ายระเบียบนี้ ไปยังกองทะเบียนประวัติอาชญากร สำหรับส่วนภูมิภาคนั้น ให้รายงานไปยังกองกำกับการตรวจวิทยาการเขต และวิทยาการจังหวัดอีกด้วย เมื่อกองทะเบียนประวัติอาชญากร กองกำกับการตำรวจวิทยาการเขต และวิทยาการจังหวัด ได้รับรายงานตำหนิรูปพรรณคนหายหรือได้คืนแล้ว ให้ดำเนินการออกประกาศโฆษณา หรือแจ้งถอนประกาศโดยรีบด่วน และให้มีหน้าที่ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานที่รับแจ้งคนหาย เพื่อให้ได้ทราบถึงผลการสืบสวนติดตามและเพื่อความแน่ชัดถึงสาเหตุแห่งการหายและได้คืน
ข้อ ๔๐๙ ประกาศสืบหาคนหายทุกฉบับ ที่ได้มีการออกประกาศสืบหาตัวนั้น ให้หัวหน้าหน่วยปิดประกาศในที่ชุมนุมชน เช่น สถานีรับส่งผู้โดยสารรถ หรือเรือ เป็นต้น
ก. หน่วยงานที่มีหน้าที่รับแจ้งภายในเขตกรุงเทพมหานคร ให้รีบติดต่อแจ้งเรื่องราวของคนหายพลัดหลงไปยัง กองกำกับการรถวิทยุ และศูนย์รวมข่าว และกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี เพื่อดำเนินการติดตามค้นหา แล้วให้ออกรายงานตำหนิรูปพรรณคนหายนี้ จำนวน ๒ ฉบับ เก็บรวมเรื่องเข้าเล่มไว้ ณ รับแจ้ง ๑ ฉบับ และส่งกองทะเบียนประวัติอาชญากร ๑ ฉบับ
ข. หน่วยงานที่มีหน้าที่รับแจ้งในเขตจังหวัดอื่น ให้ออกรายงานนี้ ๔ ฉบับ เก็บรวมเรื่องไว้ ณ ที่แจ้ง ๑ ฉบับ ส่ง วิทยาการจังหวัด ๑ ฉบับ กองกำกับการตำรวจวิทยาการ เขต ๑ ฉบับ และ กองทะเบียนประวัติอาชญากร ๑ ฉบับ
ค. การส่งรายงานตำหนิรูปพรรณคนหาย ให้จัดการส่งไปทันที พร้อมด้วยรูปถ่าย (ถ้ามี) ให้พนักงานสอบสวนหรือผู้รับแจ้งลงชื่อรับรองไว้หลังรูปถ่าย และบันทึกว่า ถ่ายเมื่อ วัน เดือน ปีใด และให้แนะนำกับผู้แจ้งด้วยว่า ถ้าได้ตัวคนหายคืนมาแล้วให้รีบแจ้งถอนที่สถานีตำรวจที่ใกล้เคียง เพื่อแจ้งกองทะเบียนประวัติอาชญากร ทราบและปฏิบัติตามระเบียบต่อไป
ข้อ ๔๐๖ ถ้ากรณีเป็นที่สงสัยว่าคนหายหลัดหลงนั้น ถูกล่อลวง ลักพาไป ให้รีบจัดตำรวจออกติดตามตลอดจนดำเนินการใช้เครื่องมือสื่อสารติดต่อกับตำรวจท้องที่ ตำรวจทางหลวง ตำรวจรถไฟ สกัดค้นตามด่านใกล้เคียง หรือสกัดที่เป็นปลายทางที่ยานพาหนะจะผ่านไปโดยด่วน
ถ้าการสอบสวนรับแจ้งนั้น มีเหตุอันควรสงสัย หรือเชื่อมั่นว่าจะเกี่ยวข้องกับการเมือง นอกจากดำเนินการดังกล่าวแล้ว ให้ทำการสอบสวนมูลกรณีโดยละเอียด และรายงานด่วนเป็นหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ๒ ชุด เพื่อพิจารณาสั่งการให้ตำรวจสันติบาล ดำเนินการสืบสวนสอบสวนติดตามเป็นพิเศษต่อไป ในการดำเนินการสอบสวนจะติดต่อผู้บังคับการตำรวจสันติบาลไปร่วมการสอบสวน หรือส่งตัวผู้แจ้งไปให้ผู้บังคับการตำรวจสันติบาลสอบสวน แล้วแต่กรณี และเฉพาะรายก็ได้ เมื่อสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วให้รายงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบอีกครั้งหนึ่ง
ข้อ ๔๐๗ ถ้าผู้แจ้งสงสัยว่าคนหาย จะถูกทำร้ายถึงตาย หรือตายด้วยเหตุอื่น ๆ ให้พนักงานสอบสวนส่งตัวผู้แจ้ง ไปดูรูปถ่ายตำหนิรูปพรรณของคนตายไม่ทราบชื่อ ที่ กองทะเบียนประวัติอาชญากร กองกำกับการตำรวจวิทยาการเขต หรือวิทยาการจังหวัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๔๐๘ ให้สารวัตรใหญ่ สารวัตร ผู้บังคับกอง หรือหัวหน้าสถานีตำรวจ สั่งมอบหมายตำรวจสถานีคนใดคนหนึ่ง เป็นผู้รับผิดชอบสืบสวนติดตามหาตัวคนหาย โดยให้ไปรู้จักกับบ้านผู้แจ้งหรือผู้ปกครองคนหาย และหมั่นไปติดต่อเยี่ยมเยียนเป็นระยะ ๆ ทุก ๗ วัน ๑๕ วัน ๑ เดือน ๒ เดือน และ ๓ เดือน เมื่อครบกำหนด ๓ เดือนแล้ว หากยังไม่ทราบหรือได้ตัวคนหายคืน ให้สารวัตรใหญ่ สารวัตร ผู้บังคับกอง หรือหัวหน้าสถานีตำรวจ รายงานผลแห่งการไปติดต่อเยี่ยมเยือน ตามแบบ วท.๑๒/๓-ต. ท้ายระเบียบนี้ ไปยังกองทะเบียนประวัติอาชญากร สำหรับส่วนภูมิภาคนั้น ให้รายงานไปยังกองกำกับการตรวจวิทยาการเขต และวิทยาการจังหวัดอีกด้วย เมื่อกองทะเบียนประวัติอาชญากร กองกำกับการตำรวจวิทยาการเขต และวิทยาการจังหวัด ได้รับรายงานตำหนิรูปพรรณคนหายหรือได้คืนแล้ว ให้ดำเนินการออกประกาศโฆษณา หรือแจ้งถอนประกาศโดยรีบด่วน และให้มีหน้าที่ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานที่รับแจ้งคนหาย เพื่อให้ได้ทราบถึงผลการสืบสวนติดตามและเพื่อความแน่ชัดถึงสาเหตุแห่งการหายและได้คืน
ข้อ ๔๐๙ ประกาศสืบหาคนหายทุกฉบับ ที่ได้มีการออกประกาศสืบหาตัวนั้น ให้หัวหน้าหน่วยปิดประกาศในที่ชุมนุมชน เช่น สถานีรับส่งผู้โดยสารรถ หรือเรือ เป็นต้น